10 เมืองใหญ่ ที่ปรับเปลี่ยนกายภาพเมืองเพื่อคนเดิน คนปั่นจักรยานอย่างเข้มข้น
10 Major Cities That Planning To Go Car-Free
Advertisement
1.นิวยอร์ค ขยายทางเดินเท้า และจักรยาน ลดการใช้รถยนต์เพื่อลดปัญหาจราจร ให้ความสำคัญกับขนส่งสาธารณะ
2.เมืองเม็กซิโกซิตี้ คาดหวังว่าจะ Ban รถยนต์ส่วนบุคคลที่จะเข้ามาใจกลางเมือง 2 ล้านคัน เพราะปล่อยมลพิษเมืองในระดับสูงมาก จึงจำเป็นต้องลดมลพิษ
3.เมืองบรัสเซล เบลเยี่ยม Ban รถยนต์ที่ใช้ดีเซล ตั้งแต่ปี 2018 พยายามขยาย Car Free Zone ตลอดเวลา จนเป็นอันดับ 2 รองจากโคเปนเฮเก้นแล้ว
4.ลอนดอน เก็บค่าธรรมเนียมการใช้รถยนต์เข้ามาในเมือง และจะ Ban รถยนต์ดีเซลภายในปี 2020 ตอนนี้ยังมีการชาร์จ 12.50 ดอลล่าร์ต่อวัน สำหรับผู้ใช้ดีเซล
5.ปารีส Ban รถยนต์ที่ใช้ดีเซล และจะเพิ่มเลนจักรยานเป็น 2 เท่า
6.โคเปนเฮเก้น ให้ความสำคัญกับเมืองจักรยาน ประชาชน 50% ใช้จักรยานในชีวิตประจำวัน
7.เมืองฮัมบูร์ก เยอรมัน จำกัดย่านที่ให้รถยนต์วิ่งผ่าน และมีแผนงานภายใน 20 ปีให้เกิดการเดินทางด้วยการเดิน และการใช้จักรยานอย่างจริงจัง โดยมีแผนลดจำนวนการใช้รถยนต์ส่วนบุคคลลง และอนุญาตให้คนเดิน ทางเท้า และจักรยานสามารถผ่านเส้นทางบริเวณที่กำหนด
8.เมืองเฉิงตู ประเทศจีน ออกแบบเมืองแห่งการเดิน ชุมชนในเมืองสามารถเดินไปในย่านอย่างสะดวกสบาย ที่มีบริการสาธารณะใน 15 นาที
9.เมืองแมดริด สปน ได้ทบทวนกระบวนการออกแบบกายภาพเมืองใหม่ โดยจะวางกายภาพถนนที่มีปัญหาจราจรหนักใน 24 สายเพื่อลดการใช้รถยนต์ลงประจำวันจาก 29% ให้เหลือแค่ 23% ในปี 2020
10.เมืองออสโล นอรเวย์ ไม่อนุญาตให้รถยนต์ส่วนบุคคลวิ่งเข้ามาในใจกลางเมืองแล้ว โดยมีแผนที่จะลงทุนระบบขนส่งสาธารณะอย่างเข้มข้นในระยะ 35 ไมล์เป็นไบค์เลน แทนระบบถนนที่เคยส่งเสริมการใช้รถยนต์ที่แสนจะสร้างปัญหาเมือง
อ้างอิง บทความ
https://www.magical-planet.com/10-major-cities-that-planning-to-go-car-free/
Advertisement
